วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

หลักโหราศาสตร์

     หลักโหราศาสตร์นั้นมีอยู่มากมายหลากหลายตำราเรียนที่มีอยู่ทั่วไป ทั้งโหราศาสตร์ไทยและสากล แต่ในบทเรียนตำราโหราศาสตร์ของท่าน อ.อรุณ ลำเพ็ญ นี้จะเป็นโหราศาสตร์ไทย ซึ่งใช้ดวงดาวทั้งหมด 10 ดวงในการพยากรณ์ ส่วนดาวที่เหลือท่านให้เหตุผลว่ายังโคจรไม่ครบรอบวงโคจรของทุกดวงดาว ดังนั้นในระบบนี้จึงมิได้ใช้ดวงดาวเช่น เนปจูน พูลโต เป็นต้น ดาวที่ใช้ในการพยากรณ์มีดังนี้
  1. ดาวอาทิตย์
  2. ดาวจันทร์
  3. ดาวอังคาร
  4. ดาวพุธ
  5. ดาวพฤหัสบดี
  6. ดาวศุกร์
  7. ดาวเสาร์
  8. ราหู
  9. เกตุ
  10. มฤตยู
     ซึ่งในระบบตำราเล่มนี้จะใช้เพียงดาวเท่าที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด 10 ดวง ซึ่งจะมีดาวจริงๆอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลเพียง 8 ดวงที่ไม่มีดาวแต่ถือว่ามีความสำคัญตามสถิติที่โบราณอาจารย์ท่านได้คำนวณแล้วว่ามีอิทธิพลจริงๆคือ ดาวราหู และ ดาวเกตุ และมีการบันทึกเก็บสถิติเอาไว้และนำมาพยากรณ์ปรากฏว่ามีผลเป็นไปตามคำพยากรณ์จึงใช้กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

     ในระบบโหราศาสตร์นี้จะให้ความสำเร็จของดาวที่เรียกว่า แฝงเรือนเกษตรหรือดาวเกษตรมีน้ำหนักมากกว่า ดาวที่ทำมุมเล็งกันหรือตรีโกณกันนั้นเองด้วยเหตุผลที่ดาวนั้นมีอำนาจถึงกันโดยตรงกว่านั้นเอง และในระบบนี้ จะใช้ "ดาวราหู" เป็นเกษตรประจำราศีกุมภ์ และไม่มีเรื่องขององศาของดาวเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด แต่สำหรับคนที่เข้ามาศึกษานั้นสามารถที่จะนำไปต่อยอดหรือเอาไปใช้เพิ่มเติมได้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละท่าน โดยของผมเองก็หวังว่าท่านที่เข้ามาศึกษานี้จะไม่ปิดกั้นภูมิความรู้โดยรับไว้ทั้งหมดและเลือกเฉพาะที่เราชอบก็อาจจะเป็นการดีกว่าที่เราไปปิดกั้น ซึ่งอาจจจะทำให้เกิดทัศนะคติที่ไม่ดีไป

     จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ได้พยากรณ์ไปไม่มากเท่าที่ใช้วิชาจากตำราเล่มนี้นับว่าแม่นยำพอสมควร แต่มันมีองค์ประกอบในเรื่องของบุญและกรรมมาเกี่ยวข้องด้วย อันเนื่องจากเหตุผลที่ว่าอารมณ์ของเราเป็นตัวกำหนดการกระทำ ดังนั้นสิ่งที่กำหนดอารมณ์ของคนเราก็คือ บุญและกรรม หรือ ความละอายต่อบาปนั้นเอง ซึ่งในตำราเล่มนี้เองก็เช่นกันเพราะได้ให้ความสำคัญกับดาวจิตใจที่เรียกกันในภาษาโหรว่า "ตนุเศษ" ซึ่งเป็นอารมณ์ของเจ้าชะตาโดยตรงและมีผลต่อการกระทำเป็นอันมาก ดังนั้นด้วยเหตุผลนี้ผมจึงเชื่อว่า บุญและบาป จึงมีผลต่อดวงชะตานั้นเอง