วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บทเรียนที่ 4 ดาวศุภเคราะห์และบาปเคราะห์

     ดาวที่ใช้ในโหราศาสตร์จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ถ้าให้เปรียบเทียบก็อาจจะหมายได้ว่า บุญ บาป คือ


     1.บาปเคราะห์ คำว่าบาปนั้นมาจาก ปาปะ แปลว่า ชั่ว ซึ่งให้ผลรุนแรง ทั้งคุณและโทษ ได้แก่ ดาวอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ ดาวราหู(ไม่มีดาวจริงเป็นเพียงเงาของโลก)


     2.ศุภเคราะห์ คำว่า ศุภะ แปลว่า ดีงาม ซึ่งให้ผลดี แต่ก็มีทั้งร้ายด้วยแต่ผลนั้นจะแสดงออกมาแบบนุ่มนวล เบาบาง ในทางโทษ ส่วนทางคุณผลก็ไม่รุนแรงเท่าบาปเคราะห์เช่นกัน ได้แก่ ดาวจันทร์ ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์

ซึ่งทั้งหมดนี้ยังมีอีก 2 ดวงที่จะใช้ในการพยากรณ์ก็คือ ดาวมฤตยู และ ดาวเกตุ(ไม่มีดาวจริงเช่นกัน)

     การทายผลการพยากรณ์จะให้น้ำหนักของดวงดาวด้วยว่าเป็นดาวบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ ซึ่งถ้าการให้ผลทางด้านดี ดาวบาปเคราะห์จะให้ผลรุนแรง รวดเร็วกว่าศุภเคราะห์มาก เช่นดาวการเงินเป็นดาวอังคารซึ่งคือดาวบาปเคราะห์เวลาให้ผมด้านการเงินในทางที่ดีจะรวดเร็ว เงินจำนวนมากแต่ต้องแลกกับการต่อสู้ดิ้นรนตามหมายความของดาวอังคารนั้นคือบาปเคราะห์ แต่ถ้าศุภเคราะห์เป็นดาวการเงินแปลว่าดาวการเงินมาเรื่อยๆประเภทเสมือนเงินเก็บแต่จำนวนมันน้อยไม่มากซึ่งมันก็เข้ากับความหมายเป็นดาวแห่งศุภเคราะห์คือไม่ได้ดิ้นรนในการหาเงินมากนักดังนั้นรายได้จึงไม่มากเหมือนดาวบาปเคราะห์ แต่การทายนั้นต้องดูองค์ประกอบในเรื่องของภพเป็นหลักนะครับดาวบาปเคราะห์กับศุภเคราะห์เป็นเพียงความหมายประกอบเท่านั้นไม่ใช่เอาความหมายของศุภเคราะห์ บาปเคราะห์ ไปทายนะครับสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวคือ ภพทั้ง 12 ภพซึ่งจะมีบอกในบทต่อๆไปที่ต้องติดตามกันนะครับ