วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บทเรียนที่ 12 ตำแหน่งดาวอุจจ์าภิมุข

     ตำแหน่งดาวนี้คือตำแหน่งที่รองลงมาจากมหาอุจจ์ แต่จะแตกต่างจากอุจจ์าวิลาสตรงที่ ดาวทั้งสามนั้นเปรียบเสมือนตัวอย่างดังนี้ ดาวตำแหน่งมหาอุจจ์เปรียบเหมือน พลเอก ที่ตำแหน่งสูงสุดเป็นผู้บัญชาการเป็นต้น ดาวตำแหน่งอุจจ์าวิลาสเสมือนตำแหน่งที่รอจะเป็นมหาอุจจ์คือ พลโท หรือรองผู้บัญชาการ ซึ่งยังไม่สูงสุดแต่ตำแหน่งอุจจ์าภิมุขก็คือตำแหน่งที่ พลเอกนั้นปลดเกษียณอายุแล้ว แต่เพิ่งจะปลดราชการใหม่ๆ ดังนั้นอำนาจจึงไม่เท่ามหาอุจจ์ แต่ก็วางมือจากราชการไปแล้ว ไม่เหมือนอุจจ์วิลาสที่ยังอยู่ในสายงานอยู่ แต่ก็ยังทรงอิทธิพลอยู่บ้างมีความเกรงใจ มีอำนาจอยู่บ้างนั้นเอง

ตำแหน่งอุจจ์าภิมุข


บทเรียนที่ 11 ตำแหน่งอุจจ์าวิลาส

     ตำแหน่งดาวนี้คือตำแหน่งที่ถือว่ารองลงมาจาก มหาอุจจ์เรียกได้ว่าเกือบจะได้ตำแหน่งมหาอุจจ์นั้นเอง อันหมายถึงถ้าจะโด่งดังก็รองลงมานิดหน่อย ชื่อเสียงลงมาอีกนิดหน่อยแต่ยังทรงอิทธิพลอยู่ และตำแหน่งหน้าที่ในการงานอาทิ ดาวการงานได้ อุจจ์าวิลาสก็อาจจะเป็นรองกรรมการผู้จัดการ เป็นต้น เช่นเดียวกันถ้าเป็นดาวเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหานั้นหมายถึงปัญหารองลงมาเรื่องใหญ่เหมือนกันแต่ไม่ใหญ่มาก

ตำแหน่งอุจจ์วิลาส
     แต่ในความเห็นของท่านอาจารย์อรุณนั้น ดาวราหู(๘) น่าจะได้ตำแหน่งอุจจ์าวิลาสที่ตำแหน่งของราศีธนูมากกว่าเนื่องจากดาวราหูนั้นเดินสวนทางกับดาวดวงอื่นๆ ดาวที่เดินสวนทางกับดาวอื่นๆคือราหูและดาวเกตุ เนื่องจากดาว 2 ดวงนี้่ไม่มีดาวอยู่จริงในระบบสุริยะจักรวาลจริงๆ เป็นเพียงการเกิดขึ้นของเงาของโลก(ดาวราหู) และการบังกันของดวงดาว(ดาวเกตุ) ดังนั้นจึงเดินสวนทางกับดาวทุกดวง แต่ในที่นี้ผมก็ใช้ตำแหน่งดาวอุจจ์จาวิลาสนั้นตามรูปนี้แหละครับ

บทเรียนที่ 10 ตำแหน่งดาวมหาอุจจ์

     ตำแหน่งดาวอุจ หรือ มหาอุจจ์ มีความหมายถึงความสูงสุด สูงส่ง ในทางรุ่งโจรน์ มีชื่อเสียงโด่งดัง ภาวะที่มั่นคงที่สุดแล้วแต่ดาวอุจจ์นั้นจะเป็นดาวอะไรก็ให้ความหมายตามดาวนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวในบทต่อๆไปในเรื่องของความหมายดาวแต่ละดวง ตำราเล่มนี้ ดาวที่จะได้ตำแหน่งนี้มีเพียง 8 ดวงเท่านั้น ไม่มีดาวเกตุและมฤตยู ซึ่งบางตำราอาจจะกำหนดดาวเกตุและมฤตยูแต่ในตำราของท่านอาจารย์ไม่ได้กำหนดไว้นะครับดังนั้นจึงไม่ต้องใส่ใจ และบางตำรากำหนดองศาในดาวอุจจ์ไว้อีกด้วยซึ่งก็ไม่ต้องสนใจอีกเช่นกันในสายตำรานี้

ตำแหน่งดาวมหาอุจจ์

      จะลองยกตัวอย่างดาวตำแหน่งนี้ให้พิจารณาเช่น ถ้าดาวที่ได้ตำแหน่งนี้มาจากภพเรื่องราวของการงาน แปลว่าเจ้าชะตาจะต้องมีอำนาจในสายงานเรียกว่าสูงสุดหรือไม่ก็ต้องเป็นถึงระดับเจ้าของกิจการเป็นต้น เช่นเดียวกัน ถ้าดาวมาจากภพอริ ก็หมายความว่าปัญหาที่พบเจอจะมีแต่เรื่องใหญ่ๆ ดังนั้นการกำหนดกฏเกณฑ์ว่าดาวที่ได้ตำแหน่งนี้จะส่งผลแต่เรื่องดีๆนั้นไม่ใช่แนวทางของตำราเล่มนี้นะครับ